ยา PEP (ยาต้ายฉุกเฉิน)
ยาเป็ป (ยาต้านไวรัสฉุกเฉิน)
ยาเป็ป มาจากคำว่า PEP (Post-exposure prophylaxis) ใช้รับประทานหลังจากที่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV
เช่น หลังจากมีเพศสัมพัน์โดยไม่ได้ป้องกัน , หลังจากถุงยางอนามัยแตก , สัมผัสเลือดหรือสิ่งคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อ
ถูกล่วงละเมิดทางเพศ , ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เป็นต้น
ยา PEP ควรเริ่มรับประทานเมื่อใด และนานเท่าใด ?
ควรเริ่มรับประทานเร็วที่สุดหลังจากมีปัจจัยเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวี หรือ ภายใน 72 ชั่วโมง รับประทานนาน 28 วัน
ยา PEP มีกี่ชนิด ?
ยา PEP มีหลายชนิด โดยจะรับยาตามปัจจัยเสี่ยง โดยแพทย์ผู้ให้คำปรึกษาจะพิจารณาตาม ปัจจัยเสี่ยงของผู้ปรึกษาเพื่อรับยา PEP
เช่น วิธีการที่สัมผัสเชื้อ มีภาวะตั้งครรภ์หรือไม่ มีโรคอื่นร่วมหรือไม่ (เช่น ไวรัสตับอักเสบ บี ,โรคไตวาย) เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ยาที่ใช้จะเป็นยา
ที่มีส่วนผสมของยาต้านหลายชนิดรวมในเม็ดเดียว เพื่อให้ออกฤทธิ์กำจัดเชื้อได้ดีขึ้น
ก่อนที่จะรับยา PEP ควรเจาะเลือดตรวจก่อนหรือไม่ ?
ถ้าเป็นไปได้ควรรับการตรวจเลือดก่อน ว่าเคยมีการติดเชื้ออื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ติดเชื้อเอชไอวีมาก่อนหน้านี้โดนไม่ทราบมาก่อนหรือไม่
เคยเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น เช่น ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบ บี, ไวรัสตับอักเสบ ซี มาก่อนหรือไม่ ค่าตับและค่าไตของผู้รับยา PEPปกติหรือไม่
จะรู้ได้อย่างไรว่ากินยา PEP แล้วมีอาการแพ้ยา ?
ตามปกติโอกาสที่จะแพ้ยา PEP นั้นน้อยมาก แต่ถ้ามีอาการผิดปกติหลังจากรับประทานยา เช่น คันตามตัว ปากบาม ตัวบวม หนังตาบวม เป็นผื่น
ให้หยุดยา และติดต่อกับแพทย์ผู้ที่รับปรึกษาจ่ายยาให้ท่าน โดยด่วน
ยา PEP ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาใด ?
ยา PEP ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาที่ขัดขวางการดูดซึมยา PEP เช่น ยาเคลือบกระเพาะอาหาร , ยาที่มีส่วนผสมของแคลเซียมและธาตุเหล็ก
ยา PEP สามารถใช้ในสตรีตั้งครรภ์ ได้หรือไม่ ?
ยา PEP สามารถใช้ในสตรีตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนตัดสินใจเริ่มยา